โซเชียลมีเดียยังคงเป็นช่องทางในการทำการตลาดที่สำคัญในปี 2018 ซึ่งปีที่ผ่านมาก็มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านระบบของแพลตฟอร์ม และพฤติกรรมผู้บริโภค การเสนอคอนเทนต์ถี่ๆ เพื่อให้ได้ผู้ติดตามหรือให้คนเห็นโพสต์อย่างฟรีๆ เริ่มยากขึ้น เพราะการจ่ายเงินโฆษณาดูจะเป็นช่องทางการสร้างรายได้ที่ดีให้กับเจ้าของแพลตฟอร์ม
เงินลงทุนในการทำตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้นในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าได้รับความนิยมมากขึ้น การแข่งขันก็สูงขึ้น และระบบในแพลตฟอร์มก็อัพเกรดมากขึ้นเช่นกัน การวางแผนในการทำคอนเทนต์ให้โดนใจลูกค้านับว่าสำคัญ และต้องรีบเรียนรู้ และนำมาใช้ให้ได้ตั้งแต่ต้นปี

Gen Z นับว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย เพราะคนเหล่านี้ใช้เวลาอยู่กับอินเตอร์เน็ตแทบตลอดเวลา โดยพฤติกรรมของคนเหล่านี้จะมีความคิดที่เปิดกว้าง ชอบลองอะไรใหม่ๆ ชอบอะไรที่ตามกระแส แต่ก็เบื่อง่ายเช่นกัน ทำให้คนเหล่านี้ไม่ได้มีการยึดติดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเป็นเวลานาน ดังนั้นการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงคนกลุ่มนี้ต้องทำให้โดนใจ รู้สึกใกล้ชิดหรือมีผลกระทบกับพวกเขา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในช่วงเริ่มต้นของปีมีดังนี้
• Video & Live steaming
คอนเทนต์ในรูปแบบวีดีโอ ได้รับความสนใจและได้รับการตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดีเมื่อปีที่แล้ว และยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งในส่วนของวีดีโอนั้นต้องมีเนื้อหาที่ดึงดูดให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมและติดตามไปจนวีดีโอนั้นจบ ในขณะที่การไลฟ์ ก็ยังคงมีปริมาณที่เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของแบรนด์เอง การไลฟ์จะเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและพูดคุยประเด็นต่างๆ กันได้แบบใกล้ชิดเป็นกันเอง ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ได้ ฟังก์ชั่นนี้จึงส่งเสริมการทำตลาดในปีนี้ได้อย่างดี
• Instagram Stories
วีดีโอขนาดสั้นที่จะหายไปภายใน 24 ชม. เป็นอีกช่องทางที่ได้รับความนิยมในปีที่ผ่านมา จุดเด่นคือสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้แบบอิสระ และเน้นความบันเทิง จากฟีเจอร์ต่างๆ การใส่สติกเกอร์ ฟิลเตอร์ และการถ่ายแบบ Superzoom ที่สนุกสนาน และสามารถส่งข้อความเพื่อแชทได้ทันที และยังสามารถไลฟ์ได้ด้วย สำหรับการชม Instagram Stories พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคจะกดดูเรื่องราวของผู้ใช้งานไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางครั้งจะมีโฆษณาคั่น ผู้ใช้งานก็ยังคงเห็นผ่านตา
• AR VR
การเสพคอนเทนต์แบบเสมือนจริง กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ เพราะความสมจริงที่จะเข้ามาช่วยให้การมองเห็นคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ หรือเรื่องราวที่ต้องการสื่อได้อย่างครบถ้วน อุปกรณ์การถ่ายภาพแบบ 360 องศา และช่องทางการรับชมก็ไม่ใช่เรื่องที่มีราคาแพงอีกต่อไป โดยการใช้งาน AR VR จึงยังเป็นเรื่องที่ใหม่และสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้
• Chatbot
พฤติกรรมคนบนโซเชียลที่ไม่เปลี่ยนคือไม่ชอบการรอ และพร้อมจะเปลี่ยนใจตลอดเวลา การได้รับการโต้ตอบย่างรวดเร็วและชาญฉลาด เป็นวิธีสร้างความประทับใจให้อย่างง่ายๆ ซึ่งแน่นอนว่ากำลังคนอาจจะไม่พอ ระบบอัตโนมัติอย่าง AI และ Chatbot จึงจะเข้ามาช่วยตอบคำถาม และตอบสนองความต้องการลูกค้าได้
• Micro-influencer
ในปี 2017 ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ อย่างเหล่าเน็ตไอดอล หรือเพจต่างๆ ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก จะได้รับความนิยมลดลง เนื่องจากผู้บริโภครู้ทันถึงการโฆษณาขายของผ่านคอนเทนต์เหล่านั้น โดยกลุ่มที่จะมาแทนที่คือ micro-influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนไม่มาก แต่เมื่อพูดอะไรแล้วมีคนที่พร้อมจะซื้อ ใช้งานตาม เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่เข้าถึงได้ง่าย เหมือนการส่งสารกันแบบปากต่อปากมากกว่าการมีแผนคอนเทนต์แบบเพจใหญ่ๆ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความนิยมในทวิตเตอร์ เพราะพูดคุยง่าย และผู้ติดตามเหล่า micro-influencer ก็รู้จักตัวตนของคนนั้นๆ ผ่านข้อความที่ทวีตอยู่ก่อนแล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในช่วงต้นปีนี้เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าการเสนอคอนเทนต์แบบเดิมจะหายไป บทความที่ให้ความรู้และมีคุณภาพยังคงเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีของผู้บริโภค การใช้รูปภาพ อินโฟกราฟิคก็ยังคงมีให้เห็นอยู่
สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เพียงรูปแบบการนำเสนอ แต่ต้องเป็นข้อมูลที่จะส่งออกไป หากมั่นใจว่าข้อมูลนั้นมีคุณภาพที่ดี ผลตอบรับที่ดีก็จะตามมาด้วยเช่นกัน
และนอกจากการทำการตลาดผ่านทางโซเชียลมีเดียแล้ว ในปี 2018 นี้ ยังเปลี่ยนแปลงไปอีกหลายอย่าง ซึ่งบางเรื่องที่ฮิตจากปีที่ผ่านมาอาจจะใช้ไม่ได้แล้วในปีนี้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 6 เรื่อง OUT การตลาด Online 2018