รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ บริษัทรับทำเว็บไซต์ รับดูแลเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์ จดโดเมน เว็บโฮสติ้ง ดูแลคอมพิวเตอร์ วางระบบ network ระบบรับจองออนไลน์ ระบบสนามกอล์ฟ web design responsive web design web responsive custom website design bespoke web design booking system web maintenance ecommerce website web design thailand web management website maintenance DiTC ดีไอทีซี ธรรมนิติ

สรุปงาน Apple Special Event September 2015 การมาของ iPhone 6S, Apple TV, iPad Pro และสีใหม่ของ Apple Watch

10 Dec 2025      เขียนโดย : Admin DiTC


          งานในครั้งนี้มีการจัดขึ้นในสถานที่แห่งใหม่จากเดิม ซึ่งเมื่อชมจากการถ่ายทอดสดจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของห้องและจำนวนคนที่เยอะขึ้นกว่าปกติ พร้อมกับคำพูดเปิดตัวในงานนี้ว่าจะเป็นการประกาศแบบยิ่งใหญ่สุดๆ (ใช้คำว่า Monster Announcement) และที่สำคัญ โดยธรรมเนียมแล้วจะมีการพูดถึงไม่มีการพูดถึงตัวเลขเหมือนครั้งผ่านๆ มา ทั้งนี้ก็เพราะสินค้าและบริการที่จะถูกนำเสนอมีรายละเอียดค่อนข้างมาก Cook เลยขอข้ามไปยังสินค้าตัวแรกเลย นั่นคือ Apple Watch 

Apple Watch

  • มีเคสคนสามารถลดน้ำหนักได้ 30 ปอนด์จากการใช้ Watch (อาจจะดูเกินจริงไปหน่อย)
  • ปัจจุบันมีแอปที่รองรับการใช้งานบน Apple Watch มากกว่า 10,000 แอปแล้ว
  • จากการออก WatchOS2 มีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือการออก Face หรือหน้าปัดแบบใหม่, Time Travel สามารถหมุนดูเวลาล่วงหน้าได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น, Transit ดูข้อมูลของรถสาธารณะได้ง่ายขึ้น
  • แอปใหม่ที่จะสามารถใช้ได้บน Apple Watch ที่ถูกพูดถึงคือ Facebook Messenger, iTranslate สามารถแปลภาษาได้ 9 ภาษา, แอป GoPro ทำงานร่วมกับกล้อง GoPro ได้
  • AirStrip เป็นแอปที่ทาง Apple เชิญมาร่วมงานพูดถึงความสามารถของมัน โดยสิ่งที่มันสามารถทำได้คือการดึงเอาข้อมูลด้านสุขภาพของคนที่สนใจหรือตัวเราเจ้าของขึ้นมาแสดงผลและส่งให้กับทาง AirStrip เพื่อทำการวินิจฉัยได้ และหากต้องการข้อมูลการเต้นของหัวใจก็สามารถวัดผ่าน Apple Watch และส่งข้อมูลไปให้ได้ทันที
  • สามารถนำ Watch ไปสัมผัสเพื่อดูข้อมูลการตั้งครรภ์ ฟังเสียงการเต้นของหัวใจของลูกในท้องได้ และส่งข้อมูลไปให้แพทย์ที่ดูแลได้
  • Apple ได้จับมือกับ Hermès ทำ Apple Watch หน้าปัด 33 มม. มาพร้อมกับสายหนัง Hermès ที่ยาวเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถใส่แล้วดูเป็นแฟชันได้ โดยขายในราคา 1250 เหรียญสหรัฐ (45,000 บาท) 
  • เพิ่มสี Gold and Rose Gold ราคาเท่าเดิมตาม Line ของแต่ละรุ่น โดยสีใหม่เริ่มวางขายทันที (ที่ Online Store มีชื่อประเทศไทยติดโผลการวางจำหน่ายด้วย)
  • เพิ่มสีของสายเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก รวมทั้ง Product RED ด้วย ทั้งนี้ก็เพราะมีการดึงเอาข้อเด่นที่มันสามารถเปลี่ยนสายง่ายมาช่วยให้ Accessories ขายง่ายขึ้นตามไปด้วย
  • WatchOS 2 จะเริ่มให้อัปเดท 16 กันยายนนี้

iPad Pro

  • จอ 12.9 นิ้ว (เทียบกับ iPad 2 เกือบ 1 เท่า) 5.6 ล้านพิกเซล ด้วยจอที่ใหญ่ก็จะช่วยให้มีพื้นที่ในการใช้งานเพิ่มขึ้น ทำให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพและพร้อมๆ กันได้
  • มีเทคโนโลยีใหม่เกี่ยวกับจอ มี Custom Timing Controller ช่วยให้การแสดงผลมีความรวดเร็วกว่าเดิม, Photo Alignment แสดงภาพได้สวยงาม, จอทำจาก Oxide TFT, Variable Refresh rate มีการปรับอัตราการแสดงภาพโดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ ให้เหมาะสม

  • ใช้ชิบประมวล A9X เป็น 3rd gen 64-bit
  • แสดงผล iMovie แบบ 4K ได้และสามารถเปิด AutoCAD ได้ (Render ได้ไม่ได้อีกเรื่องนึงนะครับ)
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง
  • มีลำโพง 4 ทิศทางที่มุมทั้ง 4 ของตัวเครื่อง
  • หนากว่า iPad Air เพียงเล็กน้อย และมีน้ำหนักมากกว่า iPad รุ่นแรก (1.57 lb)
  • มี Keyboard แสดงผลในแบบ full size และก็มี Case Keyboard
  • มี Smart Connector 3 จุดเป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับการเชื่อมต่อกับ Case ที่เป็น keyboard
  • มีการเปิดตัว Stylus เรียกว่า Apple Pencil รองรับการเขียนแบบรองรับแรงของการกด การเอียงในการเขียน และอาศัยแบตเตอรี่ในการใช้งาน (เสียบจาก Lightning Port)

  • มีแอป Microsoft Office บน iPad Pro สามารถใช้ 2 หน้าจอพร้อมกันได้ และสามารถทำงานร่วมกับ Apple Pencil และ iPad Pro ดูเนียนขึ้นทันที
  • มี Automatic Shaping วาดรูปแล้วจะมีการแปลงให้เป็นรูปได้เลย
  • Eric Snowden จาก Adobe มา Demo การวาง layout ได้อย่างรวดเร็ว สามารถแก้ไขจากการเปิด multitask เพื่อเอามาใช้งานได้ทันทีแบบ Real-Time
  • ทีมงานจาก 3D Amedical เกี่ยวกับการแพทย์ สามารถหมุนดูกระดูกแบบ 3D ดูการเคลื่อนไหวของร่ายกาย กล้ามเนื้อ พร้อมกับสามารถวินิจฉัยจากการ Render กระดูกหรืออวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายได้ง่ายขึ้นมากๆ (ตัวนี้เหมาะมากๆ กับการศึกษาด้านการแพทย์)
  • iPad Pro มีขาย 3 สี (Silver, Gold, Space Grey) 2 รุ่น ได้แก่ Wi-Fi Only ความจุ 32GB ราคา 799 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 28,700 บาท 128GB 949 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 34,100 บาท และแบบเสียบซิมได้ ความจุ 128GB ราคา 38,800 บาท
  • Apple Pencil ต้องซื้อต่างหาก ราคา 99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,600 บาท keyboard 149 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,100 บาท
  • เริ่มเปิดขายพฤศจิกายนนี้ และ iPad Mini 4 แอบออกมา โดย Spec เป็นการเอามาจาก iPad Air 2 ราคาเริ่มต้นที่ 399 เหรียญสหรัฐ

 

Apple TV …Show Me Something New

  • Remote และ Siri คือ 2 พระนางที่จะมาทำให้การใช้งาน Apple TV รุ่นใหม่ง่ายขึ้น โดย Remote ตัวใหม่นอกจากการควบคุมหน้าจอแล้วยังเป็น Joystick game ที่มี Touch Surface ในการควบคุม รวมทั้งมีไมค์และปุ่มสำหรับการรับคำสั่ง Siri ซึ่งเอามาใช้แทนที่ Keyboard
  • บริการที่สามารถใช้ได้คือ iTunes, Netflix, Hulu, Showtime, HBO สามารถหาได้หมด (คนไทยร้องไห้ทำไม)
  • มีการแสดงภาพ Screensaver ที่เป็นวิดีโอ HiDef ที่เป็น exclusive เฉพาะ Apple TV และการเลือกภาพมาแสดงจะขึ้นอยู่กับเวลา ณ ตอนนั้น (กลางวัน/กลางคืน)
  • Siri สามารถลงรายละเอียดได้ถึงว่า หาคนที่แสดงเรื่องนั้นๆ ได้, สั่งข้าม, ถามว่าในฉากนั้นเขาพูดอะไรกันแล้วแสดงออกมาเป็น SubTitle ได้

  • มี App Store ให้เลือกแอปใช้งาน มี tvOS และมี Tools สำหรับนักพัฒนาในการสร้างแอปบน Apple TV
  • ตอนนี้มี dev ที่ register แล้ว 11 ล้านคน
  • มีเกมเดโม Crossy Road (คล้ายๆ กับ Flappy Bird) และ Beat Sports (ชวนให้นึกถึง Nintendo Wii)
  • Gilt แอปสำหรับ Shopping เราสามารถเลือกซื้อของเกี่ยวกับแฟชันได้ผ่านการใช้ Remote ได้เลย (TV Shopping แท้ๆ) = Cooler, Faster and more exciting
  • MLB มาเดโม มีข้อมูลในการเล่นทุกคู่, ไฮไลท์การแข่ง สามารถดูแบบ 2 จอพร้อมกันได้
  • Apple TV รุ่นใหม่ มี 2 ความจุ 32GB 149 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,400 บาท และ 64GB 199 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,200 บาท จะเริ่มขายประเทศหลักๆ ปลายเดือนตุลาคมนี้ และที่เหลือจะขายในประเทศที่เหลือภายในสิ้นปีนี้

iPhone 6S และ iPhone 6S Plus

  • มี 4 สี เพิ่ม Rose Gold ขึ้นมาตามข่าวลือ
  • ตัวกระจกทำ Strongest cover glass

  • สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเรื่องจอ จากเดิมที่เราคุ้นเคยกับ Multi-Touch สู่ 3D Touch แตะค้างเพื่อเข้าสู่ข้อมูลได้ทันที ด้วยจอที่เป็น Capacitive Sensor และมีมอเตอร์ สั่นรับการกดด้วย (รื้อการออกแบบบอร์ดเก่าเพื่อการพัฒนาเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย และน่าจะเป็นเหตุผลที่จากวิดีโอ ความหนาน่าจะหนาขึ้น) การกด 3D Touch จะช่วย link จะเป็นการ Preview ข้อมูลให้ดูและสามารถเข้าไปถึงได้ทันที, เปลี่ยนหน้า Screen ของแอปได้ด้วยการแตะเน้นๆ แล้วปัด
  • ใช้ชิบประมวลผล A9 3rd Gen
  • คนจาก Pixeltoys นำเกมมาเดโม 60pfs ใช้ graphic โหดมาก แต่ iPhone ก็แสดงผลเนียนมาก
  • Touch ID 2nd gen ทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
  • iSight ตัวใหม่ 12 ล้านพิกเซล การโฟกัสเร็วขึ้น มีเทคโนโลยีที่ใช้ Gate ในการกรองแสงเพื่อให้ได้ภาพที่มีสีที่ถูกต้องและชัดเจน และเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน
  • ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ ด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล เหมาะสำหรับคนชอบเซลฟี่โดยเฉพาะ
  • มี Live Photos สามารถเก็บภาพในแบบเคลื่อนไหวได้ประมาณ 3 วินาที โดยจะมีตัวเลือกในการถ่ายรูป

  • มีตัวเลือกในการย้ายจาก Android มายัง iOS ได้ (Samsung ทำมาก่อนแล้ว Apple ขอทำคืน)
  • ใน US จะมี iPhone Upgrade Program โดยมีการ turn iPhone ได้ทุกรุ่นใหม่ ต้องจ่ายเดือนละ $32
  • เริ่ม Pre Order วันที่ 12 กันยายนนี้ เริ่มขาย 25 กันยายน โดยไม่มีรายชื่อของประเทศไทย (แต่ 25 กันยายนบ่ายๆ เย็นๆ เครื่อง MBK มาแน่นอน) 
  • iOS 9 ให้ update 16 กันยายนนี้
  • มีแท่นว่างเป็นสีตาม iPhone ตัวใหม่ด้วยนะครับ สวยและหรูขึ้นทีเดียว ราคา 49 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,800 บาท

 

ข้อสังเกตุเมื่อเทียบรุ่น iPhone

ที่มา : thumbsup

หมวดหมู่