
BLOCKCHAIN (บล็อกเชน)
คือเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ตัดคนกลางออกไปและนำข้อมูลมาเก็บไว้ที่ทุกคนที่อยู่ในระบบ เชื่อมต่อผู้ใช้ทุกคนเหมือนห่วงโซ่
ประโยชน์ BLOCKCHAIN (บล็อกเชน)
1. ปลอดภัย ช่วยรับรองการทำธุรกรรม
2. โปร่งใส ข้อมูลเปลี่ยนแปลงไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้
3. สะดวกรวดเร็ว ทำธุรกรรมเร็วขึ้นโดยไม่ผ่านคนกลาง
4. ลดค่าใช้จ่าย
5. ประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย

FinTech (Financial Technology)
คือ กลุ่มธุรกิจที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำให้การบริการที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น
1. การใช้โปรแกรม Streaming ในการซื้อขายหุ้น แทนการซื้อขายในห้องค้า
2. การโอนเงินออนไลน์ซื้อของผ่านมือถือ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ
3. ชำระบิลต่างๆ ผ่าน 7-Eleven
4. ใช้ระบบ Crowdfunding ระดมทุนผ่านระบบ Online ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SMEs และ Start Up

"Ripple คือบริษัท Start Up ที่มาแรงในแวดวง Fintech ซึ่งล่าสุดธนาคารไทยพาณิชย์นำเทคโนโลยี BlockChain ของ Ripple
มาให้บริการโอนเงินระหว่างไทยและญี่ปุ่น"

Thailand 4.0
เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบาย ที่เปลี่ยนเศรษฐกิจแบบเดิมไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยโมเดลของ Thailand 4.0
นั่นคือ 'มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน' ประเทศไทยตกอยู่ช่วงรายได้ปานกลางมาเป็นเวลากว่า 20 ปี จึงต้องเปลี่ยนสู่ยุค Thailand 4.0
เพื่อให้ประเทศไทยได้กลายเป็นกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง
ซึ่งปรับเปลี่ยนเป็นโมเดลเศรษฐกิจแบบ “ทำน้อย ได้มาก” คือต้องเปลี่ยนจากการผลิตสินค้า “โภคภัณฑ์” ไปสู่สินค้าเชิง “นวัตกรรม”
1. เปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิม ไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ ที่เน้นการบริหารจัดการและใช้เทคโนโลยีหรือ Smart Farming
2. เปลี่ยนจาก SMEs แบบเดิมไปสู่การเป็น Smart Enterprises และ Startups ที่มีศักยภาพสูง
3. เปลี่ยนจากรูปแบบบริการแบบเดิมซึ่งมีการสร้างมูลค่าค่อนข้างต่ำ ไปสู่บริการที่มีมูลค่าสูง
4. เปลี่ยนจากแรงงานทักษะต่ำไปสู่แรงงานที่มีความรู้และทักษะสูง

กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันเปิดบริการ PromptPay (พร้อมเพย์) อย่างเป็นทางการ เริ่มให้บริการรับเงินและโอนเงินทางเลือกใหม่โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือเลขประจำตัวประชาชนแทนเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารในส่วนธุรกรรมระหว่างบุคคล (Person to Person) เพิ่มความสะดวก และประหยัด ในการรับเงินและโอนเงินให้กับประชาชนนับเป็นก้าวสำคัญสู่ การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) เพื่อวางรากฐานสู่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย
ปี 2017 นี้ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการรับชำระเงินเกิดขึ้นมากมาย จะเห็นได้ว่านอกจากเรามีระบบ PromptPay สำหรับโอนเงินหากันไปก่อนหน้านี้แล้ว ในปี 2017 นี้ก็ได้มีการขยายขีดความสามารถของระบบ PromptPay ไปให้กับทางร้านค้าในรูปแบบ QR PromptPay เพื่อสะดวกในการรับชำระเงิน

"ตัวอย่างป้าย QR Pay ของร้านค้า SCB(ธนาคารไทยพาณิชย์)"

ตัวอย่างป้าย QR Pay ของร้านค้า KBank (ธนาคารกสิกรไทย)
และทางภาครัฐมีความพยายามที่จะบูรณาการ eID (Electronics Identification) ผ่านการใช้เทคโนโลยี Open ID ที่ตอนนี้สามารถใช้ได้หลายสิบบริการออนไลน์ของภาครัฐ สิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์คือ ลงทะเบียนออนไลน์บัญชีเดียวสามารถใช้บริการกับหลายหน่วยงานได้แล้ว แม้ยังไม่ครบถ้วนทุกบริการก็ตาม Digital ID ที่นำมาใช้ นอกจากเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ในอนาคตอาจเป็นลายนิ้วมือ การสแกนม่านตา การล็อกอินผ่านอินเทอร์เน็ต ด้วยเฟซบุ๊ก หรือโมบายแบงก์กิ้ง ฯลฯ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการแอบอ้าง/ฉ้อโกงทางออนไลน์ได้ ซึ่งไม่ได้กำหนดว่าต้องใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถรองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป

ภาพจาก สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ( EGA )